ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส 15000 ลิตร ตรา Maktang รุ่น MT15000FB
ข้อมูลเฉพาะของ ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส 15000 ลิตร ตรา Maktang
- ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส มีขนาดความจุ 15000 ลิตร
- ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.00 เมตร
- ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส มีขนาดความยาว 5.50 เมตร
- ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส มีขนาดท่อน้ำเข้าขนาด 4 นิ้ว
- ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส มีขนาดท่อน้ำออกขนาด 4 นิ้ว
ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาสทรงแคปซูลขนาดใหญ่ Maktang
การติดตั้งและการใช้งานถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาสแบบเติมอากาศ Maktang
หลักการทำงานของถังน้ำเสียเติมอากาศ
- ควรติดตั้งภายนอกตัวอาคาร เพราะสามารถทำการติดตั้งและดูแลรักษาได้ง่าย
- ควรติดตั้งใกล้ห้องส้วมและท่อระบายน้ำสาธารณะ เพื่อลดปัญหาการอุดตันในท่อ
- หากติดตั้งในอาคารให้แยกโครงสร้างฐานรากของถังบำบัดออกจากฐานรากของอาคาร
- ตรวจสอบตำแหน่งที่จะเดินท่อเติมอากาศรวมถึงตำแหน่งวางปั๊มไม่ควรห่างจากตัวถังมากนักเพราะอาจมีผลต่อแรงอัดอากาศที่ลดลงเมื่อระยะห่างระหว่างถังกับปั๊มอยู่ไกลกันและควรไว้ในที่ร่ม
- ในกรณีมีตู้คอนโทรลปั๊มควรตรวจสอบตำแหน่งที่จะติดตั้งตู้ก่อนและควรไว้ในที่ร่มหรือมีหลังคากันแดดและฝนเพื่อยืดอายุการใช้งาน
- ท่อเข้าออกสั่งได้มาตรฐานโรงงานและสั่งพิเศษ (ติดต่อฝ่ายขาย)
วิธีการติดตั้งถังบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศมีขั้นตอนตามลำดับต่อไปนี้
- ขุดหลุมขนาด กว้าง X ยาว X สูง ให้เหมาะสมกับขนาดถังฐานรากและระดับท่อ เข้า – ออก
- (ดูแคตตาล็อคและตารางแต่ละรุ่น) อาจใช้เสาเข็มตามวิศวกรระบุ แล้วรองพื้นด้วยทรายและเทคอนกรีตเสริมเหล็ก หรืออาจใช้เพียงคอนกรีตหยาบ 1:3:5 หากสภาพดินรับแรงดี
- ยกถังวางลงในหลุม จัดระดับถังให้เหมาะสมท่อเข้า - ออก จะต้องไม่กดลึกกว่าระดับพื้นดินเกินกว่า 0.50 ม. หากฝังถังลึกเกินไปถังจะเสียหายจากน้ำหนักดินที่กดทับได้ ใช้ลวดสลิงดึงรัดรอบถัง กันถังเคลื่อนและถังลอย แล้วเติมน้ำให้เต็มถังแล้วจึงกลบด้วยทรายหยาบอัดแน่นรอบถังทุกชั้น ๆ ละ 50 ซม. จากฐานรากถึงผิวพื้นด้านบนจนประกอบท่อเข้า - ออก ด้วยข้อต่ออ่อนและท่ออากาศให้สูงเลยชั้นหลังคา , ดาดฟ้า
- ทำแนวกั้นชั่วคราวเป็นแนวเขตป้องกัน และทำป้ายระวังถังบำบัด โดยรอบถัง เพื่อป้องกันรถบด, หรือเครื่องจักรหนักเข้ามาเหยียบถังโดยรอบขอบถังอย่างน้อย 1.50 ม. ตลอดช่วงระยะเวลาก่อสร้าง
- เทพื้น ค.ส.ล. ขนาดไม่เกิน 80 X 80 X 10 ซม. และฝังแหวนรองฝา ทิ้งไว้ให้ปูนแห้งแล้วจึงวางฝาปิด เติมหัวเชื้อ เป็นเสร็จขั้นตอน
ข้อควรระวังในการติดตั้งถัง
- ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ถ้าได้รับการติดตั้งอย่างถูกวิธีและปฏิบัติตามคำแนะนำ
- ระดับของท่อน้ำเสียที่เข้า และท่อน้ำเสียที่ออกจากถัง ควรอยู่สูงกว่าระดับท่อระบายน้ำสาธารณะ
- การฝังท่อร้อย (Sleeve) ที่คานชั้นล่างจะช่วยทำให้ระดับถังที่ติดตั้งไม่ลึกมากเกินไปและ ทำให้การระบายน้ำสะดวกขึ้น
- ความลาดเอียงของท่อที่เข้า และท่อที่ออกจากถัง ไม่น้อยกว่า 1 : 100 หรือมีความสูงต่างกัน 1 เซนติเมตร ต่อความยาว 1 เมตร หากท่อน้ำเสียยาวมาก (เกิน 4 เมตร) ให้เพิ่มช่องล้างท่อ (FCO) ที่ต้นท่อ หรือใช้บ่อพักทุกระยะ 8 เมตร
- การยก ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส ให้ยกโดยใช้ลวดสลิงรองรับถัง โดยใช้รถยกที่ออกแบบไว้รับน้ำหนักโดยเฉพาะห้ามยกที่ท่อเข้า - ออกซึ่งอาจทำให้ท่อหักได้
- ห้ามติดตั้งถังในระดับท่อเข้าถึงพื้นผิวดินความลึกเกินกว่า 50 ซม. ไม่ควรก่ออิฐฉาบปูนเป็นคอถังเพราะมีน้ำหนักกดทับถังมาก กรณีมีความจำเป็นต้องติดตั้งลึกเกินกว่าที่กำหนด
- ให้ใช้ทรายหยาบอัดแน่นด้วยคนและเครื่องตบอัดทรายรอบ ๆ ถัง ตั้งแต่ฐานรากจนถึงผิวดินชั้นบนสุด (เติมน้ำให้เต็มถังและบดอัดทรายพรมน้ำสลับกันทุกระยะความสูง 50 ซม.จนเต็มถัง พื้นผิวดินชั้นบน)
- บริเวณที่ติดตั้งถังต้องทำแนวรั้วชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้มีรถยนต์ รถบรรทุก หรือวัสดุหนักเข้าไปเหยียบหรือกดทับบริเวณใกล้เคียงโดยเด็ดขาด(ยกเว้นที่การทำโครงสร้างช่วยรับน้ำหนักไว้)
- การต่อท่อระบายอากาศ (V 2) ให้สูงเหนือชั้นหลังคาแยกต่างหากออกจากท่อระบายอากาศ (V 1) ของอากาศจะช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- อุปกรณ์ที่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งปั๊มเติมอากาศ และตู้คอนโทรล ควรอยู่ในห้องควบคุมหรืออยู่ในที่ร่มห่างจะความชื้น เพื่อยืดอายุการใช้งานที่นานขึ้น
การดูแลรักษาหลังจากติดตั้งแล้วและเริ่มใช้งาน
- กำจัดตะกอน โดยการจ้างรถบริการดูดส้วม อย่างน้อยปีละ 1 - 2 ครั้งทั้งช่องแยกตะกอน และช่องกรอง หรือช่องเติมอากาศเพื่อให้ประสิทธิภาพการบำบัดดีขึ้น
- ดูดตะกอนที่ก้นถังออกในปริมาณไม่เกิน 1/3 ของปริมาตรถัง (หากสูบมากเกินกำหนดถังอาจเสียหายได้) กรณีถังเติมอากาศให้สลับกันดูดจากช่องแยกตะกอน และช่องกรองเพื่อรักษาระดับน้ำระหว่างช่องยุบลงให้เท่า ๆ กันทำให้ถังบำบัดมีอายุการใช้งานยาวนาน
- ให้เติมน้ำเต็มถังทันที (สังเกตท่อน้ำล้นจะไหลออกลงบ่อพัก) แล้วจึงปิดฝาถังให้เรียบร้อย
- กรณีถังเติมอากาศ ให้ตรวจสอบการทำงานของเครื่องเติมอากาศและเครื่องสูบตะกอนว่าทำงานตามกำหนดหรือไม่ รวมถึงตู้คอนโทรลจะเป็นตัวควบคุมการทำงานของปั๊มเติมอากาศ เพราะถังเติมอากาศต้องใช้อากาศเพื่อเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์ หากไม่มีเติมอากาศเติมลงถังบำบัดเชื้อจุลินทรีย์บางส่วนอาจตายได้และในกรณีถ้าเครื่องเติมอากาศชำรุดเป็นระยะเวลา1-2วัน อาจส่งผลต่อค่าน้ำBODออกที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากขาดอากาศไปเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์(หากมีเสียงดังผิดปรกติจากปั๊ม ลมไม่ออก หรือสูบน้ำไม่ขึ้น ให้แจ้งฝ่ายบริการ)
- ห้ามทิ้งเศษขยะ หรือของที่ไม่ย่อยสลาย ลงใน ถังบำบัดน้ำเสียไฟเบอร์กลาส
- การทำความสะอาดห้องน้ำทุกครั้ง ควรใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ควรล้างบ่อยและอย่าใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคชนิดรุนแรงไหลลงเพราะจะทำให้ถังทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ
- กรณีถังดักไขมัน ให้ถอดตะกร้าเทขยะ และล้างตะกร้าทุกวัน หรือเมื่อขยะเต็มหรืออุดตัน(ซึ่งอาจทำให้ถังบำบัดเสียหายได้ภายหลัง)
- ควรสูบตะกอนไปกำจัดปีละ 1 - 2 ครั้ง โดยสูบประมาณไม่เกิน 1/3 ของถังแล้วเติมน้ำ หลังจากนั้นให้ใส่หัวเชื้อจุลินทรีย์ในถังบำบัดเพื่อเพิ่มจุลินทรีย์แทนของเก่าที่สูบออกไปให้การบำบัดมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น